Marketing เครื่องรางของขลัง พลังแห่ง "การเล่าเรื่อง"
เชื่อว่า ....ใครหลายๆคนที่ทำธุรกิจอยู่ ก็คงอยากให้ขายดีแบบเทน้ำเทท่าเป็นธรรมดาครับ พอมาดูสินค้าต่างๆที่มีอยู่ในบ้านเรา ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ใครที่มาจับธุรกิจเครื่องรางของขลัง ก็มีโอกาสปังไม่รู้เนื้อรู้ตัว ซึ่งหลายๆคนก็มองว่า "ของมันขายได้อยู่แล้ว" หรือ "มันถูกจริตคนไทย" ฯลฯ แต่....เชื่อมั้ยครับว่า ไม่ว่าธุรกิจอะไรก็ตาม ก็ปังไม่แพ้กับเครื่องรางได้เช่นกัน แค่รู้ความลับของ "การเล่าเรื่อง" ที่วันนี้จะเอามาเล่าให้ฟังครับ
ก่อนอื่น เรามาฟังกันก่อน ว่าทำไมต้อง "การเล่าเรื่อง"
เรื่องเล่าเป็นส่วนนึงของชีวิตมนุษย์มานานแล้วครับ จนกระทั่งมันแทรกซึมมาอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว เรามักจะจำได้ดีกว่า อินกว่า เข้าใจกว่า ถ้าเราถ่ายทอดอย่างมีศิลปะ และเรื่องเล่าก็มักจะถูกหยิบขึ้นมาเพื่อทำให้คนอยากรู้ต่อ อยากเข้าใจต่อครับ แต่ว่า....วันนี้ ไม่ได้ให้ไปแต่งเรื่องนะครับ วันนี้จะมาเล่าให้ฟังว่า ถ้ามองจากมุม"การเล่าเรื่อง" ทำไมเครื่องรางของขลังถึงขายดี
ในทุกเรื่องเล่า มักจะมี Conflict หรือว่า "ความขัดแย้ง" อยู่ด้วยเสมอครับ ถ้าไม่มี มันจะไม่มีเรื่องเล่าครับ ซึ่งลักษณะของ Conflict นั้น ก็สามารถแยกย่อยออกได้เป็น 5 ประเภทดังนี้ครับผม
1. แบบ Man Against Man
ตัวเรา ขัดแย้งกับ คนอื่นๆ ในที่นี้ความขัดแย้งไม่ได้หมายความว่าให้มีเรื่องกันนะครับ มันอาจจะหมายถึง การแข่งขัน ทำให้เราดีกว่า เก่งกว่า ทำได้ถูกต้องกว่า เรียกว่า "ชนะ" คนอื่นในทางใดทางหนึ่งครับ ซึ่งความขัดแย้งแนวๆนี้ ก็นำไปสู่เรื่องของ การฝึกฝน หรือการพยายามอะไรบางอย่าง ที่จะทำให้คนคนนึง ชนะคู่แข่งได้ในที่สุดครับ
2. แบบ Man Against Himself
ความขัดแย้งแบบนี้ เป็นความขัดแย้งระหว่างตัวคนคนนึง กับตัวเค้าเองครับ ซึ่งอาจจะเป็นปัจจุบัน หรืออดีตก็ได้ครับ เช่นสมมติว่า ตำรวจต้องจับลูกตัวเอง ก็มีความขัดแย้งภายในตัวเองระหว่างภาระหน้าที่ และความสัมพันธ์ในครอบครัว หรือแม้กระทั่ง คนที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษอยากจะได้ทุนเรียนต่อต่างประเทศ ก็ต้องมีความขัดแย้งระหว่างคนคนนั้นกับตัวเอง เกิดขึ้นครับ สิ่งนี้สามารถนำไปสู่เรื่องของการพยายาม การเลือก การตัดใจ แม้กระทั่งความเสียใจในการต้องเลือกทางนึง ทิ้งทางนึงครับ
3. แบบ Man Against Society
ความขัดแย้งแบบคนเดียวกับคนหมู่มาก หรือคนกับสังคมครับ ความขัดแย้งแบบนี้พบบ่อยมาก เวลาคนคนนึงพยายามจะทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามขนบธรรมเนียมประเพณี ทำอะไรใหม่ๆ ก็ย่อมไมไ่ด้รับการยอมรับในเบื้องต้นเป็นธรรมดาครับ สิ่งนี้ก็ต้องนำไปสู่การพิสูจน์ตัวตน ความพยายาม (อีกแล้ว) จนกระทั่งสำเร็จ และเป็นที่ยอมรับครับ หรือ ถ้ามองคร่าวๆก็เกิดขึ้นได้ในหนังประเภทวิ่งหนี่ซอมบี้ ก็ได้ครับ มนุษย์ผู้ทำทุกอย่างเพื่อเอาตัวรอด ก็ใช่ความขัดแย้งประเภทนี้ครับ
4. แบบ Man Against Nature
ความขัดแย้งที่ดูยิ่งใหญ่ระหว่าง มนูษย์กับธรรมชาติ ส่วนมากพบตามภาพยนตร์ที่เป็นภัยพิบัติต่างๆครับ ที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราต้องพยายามเอาชีวิตรอดให้ได้ ส่วนมากแล้วมักจะนำไปสู่ ปฏิภาณ ไหวพริบ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ดีครับ ในเชิงการคลาดแล้ว เรามักจะพบกับธุรกิจ "เครื่องสำอาง" ครับ ที่สามารถต่อสู้ "ริ้วรอยแห่งวัย" ได้ครับ (เพราะมันคือร่องรอยแห่งธรรมชาติเหมือนกัน)
5. แบบ Man Against Fate
อันนี้แหละ เป็นอันสุดท้ายที่ไม่สามารถแก้ไขได้เลยไม่ว่าด้วยอะไรก็ตาม ความพยายามก็ไม่ช่วย เพราะมันเป็นความขัดแย้งระหว่าง มนุษย์ และโชคชะตา ครับ เพราะเราไม่สามารถมองเห็นโชคชะตาใดๆได้ครับ แต่เรามักจะพบกว่า สิ่งที่เราอยากได้จะไม่ได้ หรือสิ่งที่เราไม่อยากได้มักจะมาหาเรา สิ่งเหล่านี้คือโชคชะตาครับ ความพยายามก็อาจจะไม่ตอบโจทย์ในส่วนนี้ ดังภาษิตที่ว่า "แข่งเรือแข่งพายอ่ะแข่งได้ แต่แข่งบุญแข่งวาสนาแข่งไม่ได้"
เครื่องรางของขลัง พลังแห่ง Conflict
เครื่องรางและของขลัง เป็นสินค้าที่ผลิตขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ Conflict สุดท้ายเลยครับ Man Against Fate เพราะว่า ความพยายามอาจจะไม่ใช่คำตอบของหลายๆอย่าง เครื่องรางจึงใช้ช่องว่างนี้ ทำให้เกิด Marketing ได้อย่างปังๆ เพราะเครื่องรางเหล่านั้นถูกนำเสนอให้เป็น "ตัวช่วย" มนุษย์ที่จะสามารถเอาชนะ Conflict แบบ Man Against Fate ได้ในที่สุด ซึ่งมนุษย์ก็เชื่อแบบนั้นครับ และผลก็อาจจะต้องรอการพิสูจน์ดิวยการเช่าบูชาต่างๆครับ (จะได้ไม่ได้ไม่รู้ แต่สินค้าก็มีการวางมาแล้วว่าจะทำหน้าที่เป็นตัวช่วย ให้มนุษย์เอาชนะ Conflict ได้มากกว่าคนที่ไม่มีสินค้านี้ครับ)
แล้วสินค้าอื่นๆจะเริ่มแบบนี้ได้มั้ย
ได้ครับ ถ้าอยากเริ่มทำการตลาดไม่ว่าสินค้าอะไร ลองถามใจตัวเองก่อนว่า สินค้าที่เรามี และที่เราจะขายนั้น ตอบ Conflict ไหนได้บ้าง ซึ่งถ้าลองดูแล้วสามารถตอบ Conflict ได้ ก็สามารถหยิบตรงนั้นขึ้นมาเป็นตัวตั้งต้นของเรื่องเล่าได้เลยครับ เพราะว่าสุดท้ายแล้ว ลูกค้าที่ใช้สินค้านี้ ก็จะสามารถ "เอาชนะ" Conflict บางอย่างได้ในชีวิต โดยมีสินค้าของเราเป็นตัวช่วยครับ รับรองว่า ปังได้ไม่ยากครับ
สำหรับใครที่กำลังจะเริ่มต้นทำธุรกิจ ลองเริ่มด้วยวิธีนี้ดูก็ได้นะครับ ไม่แน่ว่า เจ้าสัวคนใหม่อาจจะเป็นคุณที่เริ่มต้นจากเรื่อง Conflict เล็กๆก็ได้นะครับ
-------------------------------------------------------------------------------------
อ.ดร.ธีร์ธวัช เจนวัชรรักษ์
www.presentation-academy-thailand.com
www.facebook.com/powerpoint100lemgwean
No comments:
Post a Comment