Friday, June 19, 2020

เล่าเรื่องยังไงให้คน "หลงรัก" ด้วย Product ที่เป็น "สถานที่"



เล่าเรื่องยังไง ให้คน "หลงรัก" ด้วย Product ที่เป็น "สถานที่"


เคยไปดูโครงการบ้านจัดสรร หรือ คอนโดมิเนียม แล้วพนักงานขายให้เราเข้าไปเดินในบ้านตัวอย่าง หรือ ห้องตัวอย่างที่แต่งเสร็จแล้วมั้ยครับ?? เพราะการขาย Product ที่เป็น "สถานที่" มันคือการ "ขายฉาก" ในการเล่าเรื่องครับ 

งั้น....ผมขอเริ่มเล่าพื้นฐานให้ฟังก่อนแล้วกันครับ จะได้ไม่สงสัย ว่าทำไมถึงเรียกว่าการ "ขายฉาก" ในการเล่าเรื่อง หรือ Storytelling ที่เราคุ้นเคยกัน เรื่องราวจะน่าจดจำ น่าประทับใจ หรือน่า "หลงรัก" มักจะประกอบไปด้วย 5Ps ที่จะทำหน้าที่เป็นองค์ประกอบพื้นฐานของการเล่าเรื่องใดๆครับ 

P แรกคือ People - ตัวละคร 
เรื่องราวจะดำเนินไปได้อย่างไร หากไม่มีตัวละคร ตัวละครจะถูกกำหนดให้มี Characters บุคลิก ลักษณะ นิสัย ทัศนคติ ความเข้าใจโลก ความคิดอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่แตกต่างกันหรือคล้่าย หรือเหมือนกันกับตัวละครอื่นๆก็ได้ครับ 

P ที่สอง คือ Place - สถานที่ 
P นี้คือ "ฉาก" นั่นแหละครับ แต่ลึกๆแล้ว มันไม่ใช่แค่สถานที่ครับ แต่มันหมายถึงช่วงเวลาของสถานที่นั้นๆ บริบททางสังคมในสถานที่นั้นๆ วัฒนธรรม บรรยากาศในสถานที่นั้นๆด้วยครับ 

P ที่สาม คือ Plot - การเดินเรื่อง 
เรื่องราวจะดำเนินไปอย่างไร พระเอกกับนางเอกจะได้รักกันมั้ย ใครตีกับใคร ใครผ่านอะไรมา ใครจะทำอะไรที่ไหน สิ่งเหล่านี้เป็น Plot ทั้งสิ้นครับ

P ที่สี่ คือ Point - ประเด็นของเรื่อง 
ตอนเด็กๆเรามักจะได้ยินคำว่า "เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...." หลังจากฟังนิทานจบใช่มั้ยครับ นั่นคือ Point ที่คนฟังได้รับจากเรื่องเล่า มันอาจจะมีสาระมากๆ เหมือนเรียนคณิตศาสตร์แล้วเข้าใจพื้นที่ หรือมันอาจจะเป็นความสนุก ความประทับใจ ความสะดวกสบาย ต่างๆเหล่านี้ที่ติดตัวเราออกไป หลังจากเรื่องจบลง 

P สุดท้าย คือ  Perspective - มุมในการเล่าเรื่อง 
เรื่องเดียวกัน ถ้าเล่าจากมุมที่ต่างกัน เรื่องก็อาจจะให้เราเห็นอะไรที่แตกต่างกันก็ได้ครับ มุมในการเล่าเรื่องก็มีผลว่าเราอยากจะให้คนดู คนฟัง มองเห็น หรือเข้าใจมุมมองของใครครับ

-----------------------------------------------------

แล้ว...มันเกี่ยวอะไรกับการเล่าเรื่องแบรนด์ หรือสินค้าของเรา ??

 โดยปกติแล้ว ถ้าเรามีสินค้าอะไรซักอย่างนึง สินค้าของเราจะทำหน้าที่เป็น People ในเรื่องที่เราจะไปเล่าให้คนอื่นฟัง หรือไปเล่าแบรนด์ให้คนอื่นฟัง เรามักจะต้องกำหนด บุคลิกลักษณะ Brand Personality / Archetypes ของสินค้าเราให้ชัดเจน (จำได้ว่าเคยโพสต์ไว้แล้วครับ) ซึ่ง....มันลามไปถึง เวลาเราต้องถ่ายรูป เพื่อ Display สินค้า เราก็ต้องหา Props หาฉาก หาแสง (Place) ให้เข้ากันกับบุคลิกลักษณะของสินค้าที่เราวางไว้ใช่มั้ยครับ เพื่อให้มัน "ส่งเสริมกัน" จากนั้น .....เรื่องราว มุมมองต่างๆ ก็สามารถถูกเล่าผ่านตัวหนังสือได้ต่อไป

ทีนี้กลับมาที่ บ้านและคอนโดครับ แน่นอนว่า โครงการเหล่านั้นก็ต้องการจะขาย Product เหมือนกับสินค้าอื่นๆ เพียงแต่ ... Product ที่เค้ามี มันเป็น P ที่สอง (Place) ไปแล้ว แล้วจะเล่ายังไงให้คน "หลงรัก" กันดี

----------------------------------------------------

"สินค้า" ที่ถูกเล่ามา ให้คนฟังรู้สึกได้ว่า เป็น "ตัวละคร" 

เมื่อ Product มาเป็นสถานที่ การเล่าเรื่องที่ดีมากๆคือ การทำให้สถานที่นั้น เรียก "ตัวละคร" ครับ กลับมาที่บ้านและคอนโด ห้องตัวอย่างเหล่านั้น จะตกแต่งไว้ตาม Characters ของผู้อยู่อาศัย "ที่ควรจะเป็น" เช่น ถ้าเป็นบ้าน วัสดุ Prop ที่เอาเข้ามาใช้ ก็จะเน้นไปที่ความอบอุ่น การอยู่ร่วมกัน ในขณะที่คอนโดก็จะตกแต่งไว้เฉี่ยวๆหน่อย เพื่อให้ "คนที่เข้ามาดู" จินตนาการได้ว่า หากเขาต้องเป็น "ตัวละคร" อยู่ในฉากนี้ เขาจะต้องเป็นใคร ทำอะไร บุคลิกยังไง ต่างๆครับ เป็นการคิดกลับกันจาก Product ปกติ 

ไม่ใช่แค่บ้านและคอนโดครับ ใครที่ทำร้านกาแฟ คาเฟ่ โรงแรม พิพิธภัณฑ์ หรืออะไรก็ตามที่ต้องขายความ "มีชีวิต" ขาย Place as a Product ลองสังเกตดูก็ได้ครับว่า สถานที่เหล่านี้จะดึงดูดผู้คนได้มากเป็นพิเศษ หากคนที่เห็นแล้วนึกออกทันทีว่า เค้าจะต้องแต่งตัวยังไง เอาพร็อพอะไรไปถ่ายรูปด้วย ชุดต้องพลิ้วมั้ย หรือเข้าไปต้องเป็นเจ้าชาย เจ้าหญิง ต่างๆ เพราะว่า Place เหล่านี้ กำลัง "เล่าเรื่องราว" เพื่อ "รอตัวละคร" ที่จะเข้ามาโลดแล่นนั่นเองครับ 

-------------------------------------------------------

Case Study: Villa Musee & ร.ศ.๑๑๑ คาเฟ่

สองตัวอย่างที่ผมเห็นว่ามีความชัดเจนในการวางเรื่องเล่าไว้แล้ว รอเพียงเหล่าตัวละครเข้าไปลองใช้ชีวิตในนั้นซักวันสองวัน (หรือมากกว่า) คือที่ วิลล่า มูเซ่ (Villa Musee) และ ร.ศ.๑๑๑ คาเฟ่ อยู่ในพื้นที่เดียวกัน ที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ครับ แน่นอนว่าที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต (จริงๆ เค้าเป็นโรงแรมที่พักด้วยนะครับ ในพื้นที่เดียวกันแต่แยกโซนกันอย่างดี) ความดีงามของที่นี่คือ การซ้อนชั้นเข้าไป ด้วยการนำเอาตึกเก่าอาคารเก่าที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ คือ มี Story เดิมอยู่แล้ว ยกย้ายมาไว้ที่นี่ โดยยังคงรูปแบบของอาคารเดิม ความขลัง ความมีเรื่องเล่าเดิมไว้ แล้วซ้อนชั้นเข้าไปด้วยการสร้างตัวละครสมมติขึ้นมาอีกชั้นนึงครับ ซึ่งทำให้ข้าวของ Prop ต่างๆ ถูกวางไว้เหมือนกับตัวละครคนนั้น ยังมีชีวิต และ "ใช้ชีวิต" อยู่ แล้วคุณเองก็เข้าไป Share ยุคสมัยกับตัวละคร (เหล่า) นั้นครับ 

บรรยากาศต่างๆของสถานที่ ร้อยเรียงเล่าเรื่องของมันเข้าหากันอย่างสมดุลครับ เมื่อไหร่ก็ตามที่คนดูเห็นสิ่งเหล่านี้ แล้วมีภาพขึ้นมาในหัวทันทีว่า "ต้องใส่ชุดอะไรไปถ่าย ถึงจะเข้ากัน" หรือ "ต้องยืนถ่ายรูปตรงไหน นั่งตรงไหนถึงจะว้าว" นั่นแหละครับ สถานที่เค้าได้เรียกร้องให้คุณเป็นตัวละครให้เค้าแล้ว  








นอกจาก Scale ใหญ่แบบนี้จะทำได้แล้ว ร้านกาแฟเล็กๆก็ทำได้นะครับ (เดี๋ยวหาว่าไม่ยกตัวอย่างร้านกาแฟบ้าง) ในนี้มี ร.ศ.๑๑๑ ครับ เป็นคาเฟ่ที่ขาย Place เช่นกัน แต่เค้าก็ไม่ได้ขาย Place อย่างเดียว เพราะว่าการเล่าเรื่องก็ลามไปหาเมนูต่างๆในร้านด้วยนะครับ เล่าก่อนว่า ร.ศ.๑๑๑ เป็นฉากแบบจีนโบราณครับ แน่นอนว่า องค์ประกอบทุกอย่างจะเล่าเรื่องไปหาความเป็นจีนโบราณ เหลือก็แต่ ตัวละครที่จะมานี่แหละครับ หลักการเดียวกันเลย ชื่อเมนูที่มีก็เป็นจีนไปด้วยครับ เล่าเรื่องเดียวกันให้ชัด ไปให้สุด พอเรื่องที่เราเล่าผ่าน Place มันไปด้วยกันแล้ว ....ที่เหลือ ก็คือ "ตัวละคร" ที่จะมานี่แหละครับ ก็จะนึกออกปั๊บเลยว่าต้องเป็นตัวละครยังไง เพราะว่าเรื่องราวมันถูกเล่าผ่าน Product ที่เป็น Place ไปแล้วครับ 









เพราะการ "เล่าเรื่อง" อยู่ในชีวิตประจำวันของมนุษย์ครับ เราหนีออกจากการเล่าเรื่องไม่ได้ ไม่เคยได้ และไม่มีทางได้ การปรับการเล่าเรื่องให้เข้ากับแบรนด์ ก็เป็นอีกวิธีนึงที่จะทำให้แบรนด์ (สินค้า บริการ สถานที่) เป็นสิ่งที่ผู้คนจะ "หลงรัก" ได้ไม่ยากครับ 

ใครที่ทำร้านกาแฟอยู่ หรืออยากทำร้านกาแฟ ลองสำรวจกันก่อนครับว่า Place ที่เรา(จะ)มี พร้อมเล่าเรื่องราวดีๆหรือยัง?? ทำให้ตัวละครที่จะแวะเวียนเข้ามา "เหลือแค่คิด ว่าจะใช้ชีวิตยังไง" สิครับ 

-----------------------------------------------
ขอขอบคุณ Villa Musee (วิลล่า มูเซ่) และ ร.ศ.๑๑๑ คาเฟ่ เอื้อเฟื้อสถานที่ครับ 
ปล. เค้ามีเฟซบุ๊กอยู่ด้วยครับ ถ้าจะไปจองก่อนก็ดีนะครับ ที่นี่ Exclusive จริงๆ อยากจิบอก 

อาจารย์ ดร. ธีร์ธวัช เจนวัชรรักษ์ 
PRACT - Presentation Academy Thailand
089-635-6691
Youtube: Powerpoint100lemgwean
Soundcloud: Powerpoint100lemgwean